วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สร้างเสาเป็น Element แรกใน Revit

เพื่อเป็นกำลังใจในการเริ่มเขียนโปรแกรมใน Revit
ก็จะเริ่มจากการเขียน เสา ไปใน Revit โดยง่ายที่สุด (แต่ก็เอาเรื่องเหมือนกัน)
วิธีการ จะต้องเข้าใจก่อนว่า เราต้องมี Family ก็ไปทำการ Load Family จาก Library ของ Revit ใน Project มาก่อน จากนั้น ใน โปรแกรม ก็จะคิดว่าเราได้ นำ Family ต่างๆ และกำหนด Type ต่างๆ มาแล้ว

เริ่มจาก 
1. เริ่มเปิด Document ก่อน และต้องเปิด Trasaction (เป็นระบบเดียวกับ ฐานข้อมูลที่เราสามารถยกเลิกได้ โดยไม่ทำให้โปรแกรม หรือข้อมูลเสียหาย)

Autodesk.Revit.DB.Document document = commandData.Application.ActiveUIDocument.Document;


FilteredElementCollector collector = new FilteredElementCollector(document);
 Transaction tr = new Transaction(CachedDoc);

          if (TransactionStatus.Started == tr.Start("Create Columns"))
          {.. ที่ต้องการทำ ..

          tr.Commit();  // ปิด transaction และ update revit
       }



2. ใส่ส่วน "ที่ต้องการทำ" ทำการ กรองเฉพาะ Family ที่ต้องการโดยเลือกจากCatalog -> Structure Columns


Collection<Element> fmList = collector.OfClass(typeof(FamilySymbol)).ToElements();
 var query = from fm1 in fmList where ((FamilySymbol)fm1).Category.Name == "Structural Columns" select (FamilySymbol)fm1;
    List<FamilySymbol> oFmList = query.ToList<FamilySymbol>();

จะเห็นได้ว่ามีความแตกต่างจาก บทความก่อนหน้านี้นะครับ ผมใช้ Linq ในการกรองข้อมูลซึ่งเท่ากับ การใช้ Foreach เกือบ 10 บรรทัด โดยกรองเฉพาะ "Structural Columns" ใส่ใน oFmList

ตอนนี้เราจะมี Family ที่เป็น Array เพื่อเลือกใช้งาน แล้ว

3.ทำการวาด ได้แก่ การกำหนด ElementSet และ กำหนด ตำแหน่ง แล้วสร้าง Instance หรือวาง
สำหรับการสร้าง จะมีการกำหนดเมื่อมีการสร้าง Element ว่าต้องเป็น StructuralType.Column ส่วนนี้บังคับ จะต้องมีหมวด ตาม Revit กำหนดซึ่งมาจาก IFC Standard(ระบบมาตรฐานของ Bim) 

ElementSet elementSet = null;
for (int i = 1; i < 7; i++)
            {
            int k = i % oFmList.Count;
            FamilySymbol sFm = oFmList[k];

                  XYZ location = new XYZ(i * 10, 100, 0);
                  FamilyInstanceCreationData fiCreationData = new FamilyInstanceCreationData(location, sFm, level,
                              Autodesk.Revit.DB.Structure.StructuralType.Column);
                  if (null != fiCreationData)
                  {
                        fiCreationDatas.Add(fiCreationData);
                  }
            }
           
if (fiCreationDatas.Count > 0)
  {     
   elementSet = document.Create.NewFamilyInstances(fiCreationDatas);
  }

เมื่อ Compile แล้วทดสอบ ก็จะวาง เสาตาม Family และ Type ต่างๆตามในรูป









หา RevitApi และ Revit Sdk ได้ที่ใหน

บังเอิญว่ามีอาจาร์ยที่รู้จักกันสนใจต้องการแนะนำเริ่มเขียน C# บน Revit  อยากทราบว่า จะไปหา SDK ตัวอย่างได้ที่ใหน ผมก็ลืมใส่ใว้ใน Post ก่อนหน้า
ไปที่นี่ครับ

http://usa.autodesk.com/adsk/servlet/index?siteID=123112&id=2484975

หรือ ใช้ Google search "revitsdk download"
ก็จะ Link มาที่นี้เช่นกัน
สำหรับข้อเขียนของตัวอย่างที่ Advance หน่อยก็ไปที่

http://thebuildingcoder.typepad.com


สำหรับการ ลง จะเป็นการแตกไฟล์ ที่ Pack มา ก็จะสร้างเป็น Folder

โดยตัวอย่างจะอยู่ใน Sample และที่สำคัญต้องลง Add-In Manager ที่อยู่ใน Folder ดังรูปก่อน จึงจะ ทำการ Load Add-in ตามตัวอย่างได้ สำหรับ Compiler ใช้ Visual Studio 2010 Professional ขึ้นไปหรือ Express (Free) ก็ได้ ไปที่

 http://www.microsoft.com/visualstudio/eng/downloads

โปรแกรมที่ Compile แล้วจะได้เป็น <โปรแกรม>.dll จะนำมาใช้งาน จะใช้ Load และแสดงเป็นคำสั่ง

ถ้าต้องการทดสอบโปรแกรมก็ให้กด Run

เทคนิคอยู่นิดหนึ่งคือเมื่อสั่ง Save ใน Dialog Add-in แล้ว ต้องออกจาก Revit แล้วมาเข้าไหม่จะมี เมนูใน Add-in ปรากฏขึ้น เมื่อเข้าใหม่


การจัดการของ Family ใน Revit


การจัดการของ Family ใน Revit
อ.ธนะพันธ์ อินทรเกสร
ระบบ Family ใน Revit เป็นส่วนสำคัญมาก ที่ทำให้ Revit ใช้งานง่าย ใน การจัดการ ของ Revit จะมี โครงสร้าง  3 ส่วน ได้แก่
1. Category     จะบอกว่าเป็นหมวดของงานอะไร เช่น เป็นงานหลังคาก็ได้แก่ Roofs หรือ โครงสร้างเช่น Structural Beam Systems เป็นต้น
2. Family  ได้แก่ สัญญลักษณ์ 3 มิติ หรือ 2 มิติ รูปของวัตถุนั้นเช่น เสา Concrete หรือ เสา I beam เป็นต้น
3. Family Type เป็นการตั้งค่า ของ Family ให้มีชื่อและขนาดตาม Parameter ตามต้องการ


4. Instances เป็น วัตถุ ในแบบที่เกิดจาก Family ที่เลือกมา โดยจะมี Id เฉพาะ ไม่ซ้ำ
จะเห็นว่าตัวแปรใน วัตถุจะมี 2 สถานะ ใน Instance จะเป็นตัวแปรเฉพาะตัว ส่วน type จะเป็นตัวแปรทั้งหมดใน type เดียวกัน

เพื่อสร้างโปรแกรมในการทำงาน อัตโนมัติ จะต้องนำ Family มาใช้ ต้องเข้าใจว่าใน แบบหรือ project ที่ทำงานของ Revit จะเรียกว่า Document ที่จะบรรจุ Family เป็น Element (แบบเดียวกัน กับ Block ใน Autocad และทุกอย่างใน Revit จะเรียกว่า Element) การมาใช้งาน จะสร้าง Instance (แบบเดียวกับ BlockRefence ใน Autocad)
การขั้นแรก Scan ทั้ง Document ใส่ใน Array

Autodesk.Revit.DB.Document document = commandData.Application.ActiveUIDocument.Document;

FilteredElementCollector collector = new FilteredElementCollector(document);


Collector จะมี ทุก Element ใน Project ปัจจุบัน ทั้ง Element ที่มองเห็น ทั้ง View ทุกอย่าง เพื่อให้เหลือเฉพาะส่วนที่ต้องการการ เราจะต้องทำการ filter หรือกรอง เฉพาะ Family โดยจะเรียกว่า FamilySymbol
      ICollection<Element> collection = collector.OfClass(typeof(FamilySymbol)).ToElements();

ตอนนี้เราจะได้ Family มาทั้งหมดแล้วใน collection ถ้าเราต้องการเฉพาะ
Category ใน Code จะเป็น
collection[i].Category.Name
ลองเขียนเป็นโปรแกรม
foreach (Element e in collection)
    {
        familySymbol = e as FamilySymbol;

        MessageBox.Show(familySymbol.Category.Name);
        Family fm = familySymbol.Family;
                   MessageBox.Show (fm.Name);

        ElementType et = e as ElementType;

        if (null != familySymbol.Category)
        {
            if ("Structural Columns" == familySymbol.Category.Name)
            {
 MessageBox.Show (et.Name);

                break;
            }
        }
    }

สำหรับการแสดงชื่อของ Family จะใช้
Family fm = familySymbol.Family;
                   MessageBox.Show (fm.Name);
โดยที่  familySymbol จะเก็บทัง Category และ Family
แต่ การที่จะเข้าไปใน Type จำเป็นต้องใช้ ElementType ในการ Cast Element เพื่อที่จะนำค่า
ElementType มาใช้งาน
 ถ้าต้องการ Type ก็ใช้
ElementType et = e as ElementType;
  MessageBox.Show (et.Name);

Revit ใช้การเขียนโปรแกรมในระบบที่ทันสมัยมาก ได้ใช้ Linq ทำให้การเขียนโปรแกรมสั้นลงไปอย่างมาก
ผมจะแนะนำในตอนหน้า